ชื่อวิทยาศาสตร์ |
Bougainvillea spp.
|
ชื่อวงศ์ |
Nyctaginaceae |
ชื่อสามัญ |
Bougainvillea |
ชื่ออื่น ๆ |
Peper Flower, Kertas, ตรุษจีน |
ถิ่นกำเนิด |
อเมริกาใต้ |
การขยายพันธุ์ |
ปักชำกิ่ง, ตอนกิ่ง, เสียบยอด |
|
|
|
ประวัติและข้อมูลทั่วไป |
|
เฟื่องฟ้าถูกค้นพบครั้งแรกในประเทศบราซิล โดยนักพฤกษศาสตร์ ชาวฝรั่งเศสราวปี คศ. 1766 - 1769 และได้ถูกนำ
ไปปลูกยังส่วนต่างๆ ของโลก เริ่มจากยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเซีย สำหรับในประเทศไทย มีการนำพันธุ์เฟื่องฟ้าเข้ามาจาก
สิงคโปร์
ครั้งแรกราวปี พศ.2423 ใน สมัยรัชการที่ 5 และมีการนำเข้าจากต่างประเทศมากมายจนถึงปัจจุบันพันธุ์เฟื่องฟ้าใน
ประเทศไทย มีไม่
น้อยกว่า ต่างประเทศ เนื่องจากเฟื่องฟ้าเจริญเติบโต ได้ดีในประเทศไทย แล้วยังเกิด การ กลายพันธ ุ์ เกิดเป็นพันธุ์ใหม่ขึ้นมากมาย |
|
|
|
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ |
|
เฟื่องฟ้าเป็นไม้ยืนต้นประเภทพุ่มกึ่งเลื้อยอายุยืนหลายสิบปี ขนาดตั้งแต่พุ่มเล็กถึงพุ่มใหญ่ มีหนามขึ้นตามลำต้นอยู่เหนือใบ
ใบเป็นใบเดี่ยว แตกออก สลับกับกิ่งหรือเยื้องกัน มีขนขึ้นปกคลุมเล็กน้อยมีสีเขียวหรือใบด่าง รูปร่างรีแหลมยาว 3-6 ซม.กว้าง 2.5 ซม.
ใบประดับลักษณ ะคล้ายรูปหัวใจหรือรูปไข่มี 3-5 ใบ มีหลายสี เช่น ม่วง แดง ชมพู ส้ม ฟ้า เหลืองและอื่นๆผู้พบเห็นทั่วไปมักเข้าใจว่า
ใบประดับคือดอก ดอกมีทั้งดอกสมบูรณ์เพศและไม่สมบูรณ์เพศ ออกเป็นช่อตามซอกใบหรือปลายกิ่ง แต่ละช่อมี 3 ดอก เป็นหลอดยาว
1-2 ซม. ติดอยู่ที่เส้นกลางใบของใบประดับ ส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าดอกคือเกสรดอก ดอกเป็นชนิดไม่มีกลีบดอก มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ มี
เกสรตัวผู้ 5-10 อัน การปลูกเลี้ยงในประเทศไทยมักจะเกิดการกลายพันธุ์ โดยเนื้อเยื่อบริเวณตามีการเปลี่ยนแปลง ในระดับเซล์ล ทำให้
ส่วนต่างๆ เปลี่ยนไป เช่น สีของใบประดับเปลี่ยนไปกลายพันธุ์เป็นใบประดับซ้อนกลายพันธุ์เป็นใบด่างกลายพันธุ์เป็นดอกกระจุก เป็นต้น |
|
|
|
การปลูกและดูแลรักษา |
|
เฟื่องฟ้าเป็นพืชที่ต้องการแสงแดดจัดในสภาพกลางแจ้ง ได้รับแสงแดดตลอดวันถ้าได้รับแสงแดดไม่เพียงพอจะทำให้สีของ
ใบไม่เข้มออกดอกน้อย ต้องการอุณหภูมิปานกลางหรือร้อนชื้น เฟื่องฟ้าจัดเป็นพืชที่ทนแล้ง แต่ถ้าต้นยังเล็กควรให้น้ำอย่างเพียงพอ เมื่อ
โตขึ้น ต้องการน้ำปานกลา งถึงค่อนข้างต่ำ ถ้ารดน้ำมากเกินไปจะไม่ออกดอก |
|
|